มข.จัด ค่ายตะวันฉาย ปีที่ 11 มุ่งผลักดันคุณภาพชีวิตผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่

มูลนิธิตะวันฉาย เพื่อผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จัด “ค่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตน้องตะวันฉาย” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ทพญ.ทัศนีย์ วังศรีมงคล กรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ กล่าวรายงาน ว่าที่ร้อยเอก พงเจตน์ พรกุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี ณ ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โอเทล อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

รองศาสตราจารย์ ดร.ทพญ.ทัศนีย์ วังศรีมงคล กรรมการมูลนิธิตะวันฉายฯ กล่าวว่าโครงการ “การบริการที่สมบูรณ์แบบเพื่อการดูแลผู้ป่วยภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 11 ประจำปีงบประมาณ 2566″ มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาการบริการที่สมบูรณ์แบบในการดูแลผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ และ พิการทางศีรษะและใบหน้า ให้มีความสมบูรณ์แบบครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ สุขภาพ การศึกษา การดำรงชีวิต สังคม และ การเสริมสร้างพลังอำนาจในตนเอง และ เพื่อให้ผู้ป่วยเห็นคุณค่าในตนเอง มีความมั่นใจในการเข้าสังคมมากขึ้น รวมทั้งสามารถตั้งเป้าหมายชีวิต และ พัฒนาศักยภาพของตนเองได้

“กิจกรรมสำหรับน้อง ๆ ตะวันฉายฯ และครอบครัว มีทั้งการประเมินภาพลักษณ์ใบหน้า เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่ยังคงเหลือให้ใกล้เคียงปกติ โดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การตรวจประเมินสุขภาพช่องปากและการจัดฟันที่ต่อเนื่อง โดยทีมทันตแพทย์จัดฟัน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การเสริมพลังเชิงบวก โดยอาจารย์และนักศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การรู้จักและเข้าในตนเอง เพื่อสร้างความสุข โดยนักจิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การสร้างสุขภาวะที่ดี การวางแผนครอบครัว และเพศสัมพันธ์ โดยพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงดูน้องตะวันฉาย และ กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ และการเรียนรู้ ได้แก่ ทักษะภาษาอังกฤษ โดย สาขาภาษาอังกฤษสื่อสารธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะมีการแต่งตั้งทูตตะวันฉาย ซึ่งจะได้รับทุนการศึกษา ทุนละ  5,000 บาท”

ว่าที่ร้อยเอก พงเจตน์ พรกุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ประธานในพิธี กล่าวว่า “การบริการที่สมบูรณ์แบบเพื่อการดูแลผู้ป่วยภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ฯ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติที่ 4 เรื่องการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ขณะเดียวกันยังเป็นไปตามแผนแม่บทที่ 13 เรื่องการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี และสอดคล้องกับแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยเพื่อลด ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและกรอบแนวทางการพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาจังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2566-2570 ในประเด็น การพัฒนาที่ 4 การพัฒนาสังคมสุขภาวะให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ตามแนวทางการพัฒนา ที่ประกอบไปด้วย การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัยให้มีสุขภาวะและความเป็นอยู่ดี การส่งเสริมสวัสดิการและการพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพให้มีรายได้อย่างยั่งยืน และ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาชุมชน เป็นฐานในการสร้างสุขภาวะที่ดี”

สำหรับทูตตะวันฉาย 2 ท่านที่ได้รับทุนการศึกษา ทุนละ  5,000 บาท ได้แก่ นางสาวปัณณฑร จิรัฐพิกาลพงศ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ นางสาวจิรภัทร วันฤกษ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยนางสาวจิรภัทร เปิดเผยว่าตนเองเป็นผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ข้างซ้ายชนิดสมบูรณ์ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาตั้งแต่แรกคลอดจนถึงปัจจุบัน

“หนูเป็นคนจังหวัดยโสธร มาเข้ารับการรักษาเนื่องจากคุณป้าที่เป็นพยาบาลแนะนำให้คุณแม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกมูลนิธิ ผ่าตัดครั้งแรกตั้งแต่ 3 เดือน ผ่าตัดบ่อยที่สุดช่วงประถม เมื่อเข้าสู่ ม.ปลาย ก็เป็นการมาพบคุณหมอเพื่อจัดฟัน เดือนละครั้ง การรักษาจึงไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเรียน สำหรับการสอบเข้า มข.หนูมาในรอบ Portfolio ต้องใช้คะแนน TOEIC 500 คะแนนขึ้นไป ตอนนั้นหนูฝึกทำข้อสอบ อย่างหนัก 2 เดือน ได้คะแนน 715 ดีใจมาก  การใช้ภาษาอังกฤษไม่มีปัญหาสำหรับการออกเสียงเลย ฝากถึงผู้ปกครองอยากให้ให้กำลังน้องๆในครอบครัวมากๆ การให้กำลังใจเป็นการเสริมพลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การใช้ชีวิต เวลาประสบความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ ก็ควรชื่นชมซึ่งกันและกัน สำหรับกำลังใจที่หนูอยากจะฝากในฐานะทูตตะวันฉาย คือ ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง พยายามฝึกเรื่องที่ตัวเองชอบ เพราะทุกคนมีความสามารถในตัวเอง”

สำหรับ “ค่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตน้องตะวันฉาย” ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น อย่างต่อเนื่องกระทั่งดำเนินมาถึงปีที่ 11 โดยในครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาดำเนินงาน 2 วัน 1 คืน ระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2566 มีผู้เข้าร่วมโครงการ คือ น้องตะวันฉาย อายุ 7-18 ปี 38 คน และครอบครัวน้องตะวันฉาย 51 คน ทีมวิทยากร และเจ้าหน้าที่ 30 คน กิจกรรมในช่วงเช้า เป็นการเข้าฐานของผู้ป่วยประกอบไปด้วย ฐานที่ 1 ศัลยกรรมตกแต่ง โดยกิจกรรมจะมีการประเมินภาพลักษณ์ใบหน้าของผู้ป่วยเพื่อแก้ไขปัญหา หรือ ความบกพร่องทางศีรษะและใบหน้าเพิ่มเติม และถ่ายภาพท่ามาตรฐาน ฐานที่ 2 ทันตกรรมจัดฟัน  เน้นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยทั้งการตรวจสุขภาพช่องปากและแนะนำวิธีการใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้อง ฐานที่ 3 ฉันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง รู้จักและทำความเข้าใจตนเองเมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่น สร้างความสุขทั้งกาย และ ใจ ด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ ฐานที่ 4 พลังเชิงบวก เสริมพลังเชิงบวกเพื่อให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจ และ พัฒนาบุคลิกภาพนำไปสู่การเข้าสังคม ฐานที่ 5 Adventure in English

ส่วนกลุ่มผู้ปกครองประกอบไปด้วยฐาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลลูกรักแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตการเลี้ยงดูผู้ป่วยโดยผู้ปกครองเติมความรู้เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้ความรู้และส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยและครอบครัว ต่อจากนั้นในช่วง 13:30 น.เดินทางไปยังศูนย์ค้ำคูณอำเภออุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น กิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายนเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์หัวข้อการสกัด DNA อย่างง่ายและนิติวิทยาศาสตร์ พาลาลอย of love ในช่วงท้ายเป็นการประเมินและสรุปผลการเข้าร่วมโครงการโดยทีมเจ้าหน้าที่ศูนย์ตะวันฉาย

KKU runs the 11th Tawanchai Camp for improving quality of life of patients with cleft lips and palate

https://www.kku.ac.th/16872

Scroll to Top